บทสรุปรีวิว Huawei Ascend P7,ฟีเจอร์ที่ประทับใจ

ผ่านไปทั้งหมด 3 ตอนแล้วนะครับ สำหรับการรีวิว Ascend P7 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของ Huawei ประจำปีนี้ ซึ่งทั้ง 3 ตอนนั้นก็มีทั้งการแนะนำตัวเครื่อง รูปลักษณ์ภายนอก กล้องถ่ายภาพ และระบบซอฟท์แวร์ภายใน ใครพลาดตอนไหนไป ตามอ่านย้อนหลังกันได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้ครับ

ส่วนในตอนนี้ก็จะเป็นตอนสุดท้ายของรีวิว Huawei Ascend P7 ซึ่งผมจะมาสรุปฟีเจอร์เด่นๆ และที่เป็นที่ประทับใจมาให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกันครับ

1. รูปลักษณ์โดดเด่น

สำหรับรูปลักษณ์หรือตัวเครื่องของ Ascend P7 นั้นต้องบอกว่าออกแบบมาได้โดดเด่นพอสมควรครับ ด้วยวัสดุที่จับแล้วรู้สึกว่าพรีเมี่ยม ซึ่งมีการเคลือบพื้นผิวด้านหน้าและหลังตัวบอดี้ด้วยแผ่นกระจก

ขอบข้างตัวเครื่องก็เป็นอลูมีเนียมสีเงินมันวาว

ส่วนด้านขอบล่างจะโค้งมนเล็กน้อย โดยทาง Huawei เรียกการออกแบบส่วนนี้ว่า “Waterdrop Design” หรือเลียนแบบรูปลักษณ์ของหยดน้ำ นั่นเอง

ขนาดของเครื่องนั้นก็บางมากครับ เพียง 6.5 มิลลิเมตร โดยได้รับฉายยาว่า “มือถือ 4G ที่บางที่สุด” เลยทีเดียว

หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนังก็คมชัดครับ !

2. รองรับ 4G

ในปัจจุบันเทรนด์สมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G กำลังจะมาครับ ซึ่งในบ้านเราตอนนี้ก็เริ่มมีผู้ใหบริการ 4G แล้ว ดังนั้นการลงทุนเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ไปตั้งแต่ตอนนี้เลย เมื่อ 4G มีการใช้งานแพร่หลายแล้ว ก็จะรองรับการใช้งานได้ทันทีครับไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ครับ

สำหรับการใช้งาน 4G นั้นจะทำให้การใช้ data ผ่านแอพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การท่องเว็บไซต์ ดูวีดิโอ หรือเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กทำได้ไหลลื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ

3. กล้องถ่ายภาพไม่ธรรมดา !!

ในรีวิวตอนที่ 2 ผมได้บอกไปแล้วว่าคุณภาพที่ได้จากกล้องของ Ascend P7 นั้นน่าประทับใจจริงๆ ด้วยกล้องหลังที่มีความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหน้าก็อัดให้มาเยอะมากถึง 8 ล้านพิกเซล ทำให้การถ่ายภาพตัวเองหรือเซลฟี่ทำได้คมชัดยิ่งขึ้นครับ (สาวๆ หน้าจะชอบ)

นอกจากกล้องหน้าจะชัดแล้ว ยังมีฟีเจอร์ Panorama Selfie หรือการถ่ายภาพกล้องหน้าแบบพาโนรามาได้อีกด้วยครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Ascend P7

ดูรีวิวเรื่องกล้องของ Ascend P7 เพิ่มเติมได้ที่ >> คลิก

4. UI เรียบหรู

นอกจากเรื่องสเปคและรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว Ascend P7 ยังมีจุดที่น่าสนใจตรงที่ซอฟท์แวร์และ UI (User Interface) ภายในอีกด้วย ซึ่งทาง Huawei ได้พัฒนา UI พิเศษมาครอบในส่วนของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อีกชั้นเรียกว่า Emotion UI ที่ทำให้การแสดงผลต่างๆ ของระบบภายในของ Ascend P7 ดูสวยงาม เรียบง่าย และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มากขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบการแสดงผลไอค่อนของแอพพลิเคชั่นมาไว้ที่หน้าแรก (ตัด App Drawer ออกไป) และการเพิ่มลูกเล่นให้สามารถเปลี่ยน Themes สวยๆ ได้หลายแบบ เป็นต้น

แอพเสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอพบอกสภาพอากาศ แอพเครื่องคิดเลข หรือแอพอัดเสียง ก็ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบหรูและใช้ง่ายมากครับ

หน้าโฮมของ Emotion UI ดูเรียบๆ แต่มีทางลัดเข้าเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

อ่านรีวิวเกี่ยวกับ Emotion UI ต่อได้ที่ >> คลิก

5. ฟีเจอร์เสริมสารพัดประโยชน์

ในปัจจุบันนี้ นอกจากการแข่งขันกันในเรื่องของสเปคและฮาร์ดแวร์ของเครื่องแล้ว ฟีเจอร์เสริมภายในก็เป็นอีกส่วนที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้ความสำคัญและพยายามทำออกมาให้เป็นจุดขายกับแบรนด์ของตน รวมถึง Ascend P7 ที่ Huawei ได้ใส่ฟีเจอร์สารพัดประโยชน์เข้ามามากมายครับ เช่น

HiCloud

ฟีเจอร์สำหรับซิงก์และแบ็คอัพข้อมูลบน Cloud ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อผู้ติดต่อ ข้อความ ข้อมูลการโทร ข้อมูลแอพ รวมถึงรูปภาพและไฟล์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งทาง Huawei ให้พื้นที่ฟรีถึง 5 GB

Phone Finder

Phone Finder เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ใน HiCloud อีกทีครับ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เป็นระบบสำหรับค้นหาโทรศัพท์ของเรา ในกรณีที่เกิดการสูญหาย สามารถเข้าดูตำแหน่งพิกัดที่อยู่ของเครื่องได้จากหน้าเว็บไซต์ หรือจะสั่งล็อคเครื่อง/ลบข้อมูลในระยะใกลก็สามารถทำได้ครับ

Phone Management

เรียกเป็นการรวมแอพ Utility ต่างๆ มาไว้ให้แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นแอพสำหรับทำความสะอาดไฟล์ขยะ หรือแอพล้างหน่วยความจำให้โล่ง เป็น

Storage cleaner แอพเคลียร์ไฟล์ขยะ และ Phone accelerator แอพช่วยตรวจวิเคราะห์ว่าแอพใดส่งผลให้เครื่องหน่วง

แอพสำหรับจัดการ Notification ที่นอกเหนือจากตัวระบบปฏิบัติการ Android และแอพสำหรับช่วยให้การสำรองข้อมูลเครื่องทำได้ง่ายขึ้น

Networked App

แอพช่วยตรวจสอบการใช้งาน data สามารถดูได้ว่าแอพใดใช้ data ไปปริมาณเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นผ่าน 3G/4G หรือ WiFi

Ultra Power Saving Mode

ป็นโหมดสำหรับประหยัดแบตเตอร์รี่ขั้นสุดยอดโดยการปิด Services ต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้เพิ่มขึ้นนานถึง 24 ชั่วโมง เมื่อเหลือแบตฯ เพียง 10%

สรุป

จากที่ผมได้รีวิวทั้งหมดรวม 4 ตอน เชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านน่าจะได้ทำความรู้จักกับ Ascend P7 เกือบจะครบทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นสเปคของตัวเครื่อง ระบบซอฟท์แวร์ภายใน และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ด้วยราคาเปิดตัวที่อยู่ในระดับที่ไม่สูงเท่าไร (14,990 บาท) เมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ โดยรวมผมให้ Ascend P7 “สอบผ่าน” และน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ …ใครที่สนใจ ตอนนี้สามารถสั่งซื้อ Ascend P7 แบบออนไลน์ผ่านทาง LAZADA ได้นะครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิวทั้ง 4 ตอนครับ


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!