รีวิว Oppo Finder : สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ …ดีไซน์บางเฉียบ (ที่สุดในโลก)

 Oppo Finder เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ในงาน Bangkok International Motor Show 2012 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ประสบความสำเร็จจาก Find 3 (รุ่นก่อนหน้า) ที่ได้เสียงตอบรับดีจากผู้ใช้หลายรายไปก่อนแล้ว ด้วยการชูจุดขายที่เป็นเครื่องสเป็คสูงในราคาที่สัมผัสได้ ยิ่งใน Oppo Finder มีจุดเด่นที่เป็น “สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก” เลยทำให้รุ่นนี้กลับมาเป็นที่น่าสนใจและจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

สารภาพก่อนรีวิว

ก่อนจะเริ่มรีวิว ผมต้องขอสารภาพก่อนเลยว่า Oppo Finder เป็นมือถือในระบบแอนดรอยด์เครื่องแรกของผม ที่ได้ใช้แบบจริงๆ จังๆ โดยก่อนหน้านี้เคยเล่นมาบ้างแต่เป็นเครื่องของคนอื่นเสียมากกว่า ดังนั้นผมจะขอรีวิวในมุมมองของผู้ใช้ทั่วไปที่มีต่อ Oppo Finder และครั้งนี้ถือเป็นการรีวิวมือถือครั้งแรกของผม อาจไม่ค่อยสมบูรณ์หรือขาดตกบกพร่องในเรื่องใดไปบ้างก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ หากมีคำถามหรือข้อเสนอแนะใดๆ ก็ส่งเข้ามาแสดงความเห็นกันได้ครับ และที่ขาดไม่ได้เลย ต้องขอขอบคุณทาง Oppo Thai ที่ส่งเจ้าเครื่อง Oppo Finder มาให้ผมได้ใช้งานด้วยครับ

คุณสมบัติเบื้องต้น

Oppo Finder นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ดังนั้นจึงมาพร้อมกับสเป็คที่ค่อนข้างสูง ด้วยซีพียูความเร็ว 1.5 Ghz (Dual Core), แรม 1 GB และใช้หน้าจอ SUPER AMOLED ที่ให้สีสันออกมาได้สวยสดใส ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 อีกทั้งกล้องหลังที่เป็นเลนส์จาก SONY ความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของ Oppo Finder คือมีความบางเพียง 0.66 เซนติเมตร เท่านั้น หรือเรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก ณ เวลานี้

รายละเอียดสเป็คทั้งหมดของ Oppo Finder

  • ซีพียู Qualcomm Snapdragon S3  ความเร็ว 1.5 GHz (Dual Core)
  • แรม 1 GB
  • หน้าจอ SUPER AMOLED ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480
  • กระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass *แข็งแรง+ทนต่อการขีดข่วน
  • ความจุภายใน 16 GB *ไม่สามารถใส่ SD Card ได้
  • กล้องหลัง (SONY) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล
  • ถ่ายวีดิโอความละเอียดสูงสุดได้ระบบ 1080p
  • สายเชื่อมต่อแบบ Micro USB 2.0
  • ความจุแบตเตอร์รี่ 1,500 mAh
  • รองรับเครือข่าย 850/900/1800/1900MHZ/WCDMA(850/900/2100)
  • WiFi, GPS, Bluetooth
  • ขนาดตัวเครื่อง ยาว 125.43 มม. , กว้าง 66.18 มม ,  หนา 6.65 มม
  • น้ำหนัก 125 กรัม
  • ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.03 (Ice Cream Sandwich)

ตัวเครื่อง

ตัวเครื่องของ Oppo Finder นั้น ใช้วัสดุที่เป็นอลูมิเนียม ซึ่งงานประกอบทำออกมาได้เนี๊ยบมากครับ  เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน (ที่เคยได้เล่นผ่านมือมาก่อนบ้าง) ให้ความรู้สึกเหมือนว่าทั้งเครื่องเป็นชิ้นหนึ่งชิ้นเดียวกันครับ

ด้านหน้าตัวเครื่อง

ด้านหลังเครื่อง โดยเครื่องที่ผมได้มานั้นจะมีฝาหลังไม่เหมือนรุ่นที่วางขายทั่วไป (ฝาหลังจริงๆ จะเป็นแบบในลิงก์นี้ครับ)

ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ด้านขวาของตัวเครื่อง

ด้านขอบบนของตัวเครื่อง เป็น ช่องเสียบสายเชื่อมต่อและหูฟังแบบ Micro USB และข้างๆ เป็นปุ่ม Power

ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นซิมขนาดเล็กแบบ micro SIM

ความบางของเครื่อง

เปรียบเทียบความบางกับปากกา

เอา Oppo Finder (ด้านขวา) มาวางเทียบกับ Motorola Razr (ด้านซ้าย) ซึ่ง Razr เป็นอีกรุ่นที่เน้นเรื่องความบาง

อุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่องครับ มีสายชาร์จและหูฟังแบบ Micro USB

หน้าจอ

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นครับ ว่า Oppo Finder ใช้หน้าจอแบบ SUPER AMOLED ที่ให้สีออกมาได้สวยสดใส อีกทั้งกระจกยังเป็นแบบ Gorilla Glass ซึ่งมีความแข็งแรงและทนต่อการขีดข่วนครับ

การมองเห็นจอภาพเมื่ออยู่กลางแจ้ง (ปรับความสว่างแบบ Auto)

การมองเห็นจอภาพเมื่ออยู่ในที่ร่ม (ปรับความสว่างแบบ Auto)

ระบบภายใน

Oppo Finder มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.03 (Ice Cream Sandwich) หน้าตาของตัวเครื่องไม่ได้ตกแต่งอะไรมามาก ทำให้รู้สึกไม่รกจนเกินไป (จากภาพด้านขวาผมใช้ Go Launcher ที่ติดมากับตัวเครื่องครับ)

โดยจากที่ได้ลองใช้มาประมาณ 1 สัปดาห์  ในมุมมองของคนที่ไม่เคยใช้ Android มาแบบจริงๆ จังๆ (ใช้ iPhone มาก่อน) ต้องบอกว่าการใช้งานนั้นลื่นในระดับที่พอใจมากครับ เล่นเกมสเป็คกลาง-สูงได้ไม่กระตุก ไม่ค่อยมีอาการค้างให้เห็น อาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องมีสเป็คที่ค่อนข้างสูง

โดย Oppo Finder ได้การรับรองมาตรฐานจาก Google อย่างถูกต้อง สามารถใช้บริการต่างๆ และโหลดแอพต่างๆผ่าน Google Play Store ได้

ส่วนคีย์บอร์ดก็เป็นคีย์บอร์ดปกติของ Android ครับ ซึ่งมีระบบเดาคำศัพท์ที่จะพิมพ์ได้อีกด้วย

ทดสอบความแรงของเครื่องด้วย AnTuTu ผลออกมาได้น่าประทับใจมากครับ (ภาพซ้าย) มีคะแนนสูงกว่า Galaxy Note และ Galaxy Nexus, การทดสอบระบบ MultiTouch ของหน้าจอนั้น ก็ได้สูงสุดที่ 10 จุดครับ (ภาพขวา)

กล้อง

กล้องหลังของ Oppo Finder นั้นใช้เลนส์จาก SONY มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายออกมาค่อนข้างละเอียดมากพอสมควร และสามารถถ่ายวีดิโอได้ชัดสูงสุดถึงระดับ HD (1080p)

แอพถ่ายภาพปกติ สามารถถ่ายในโหมด HDR ได้

แอพถ่ายภาพ LOMO ที่แถมมาให้กับตัวกล้อง

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

(คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพต้นฉบับขนาด 100%)

ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ (ซ้าย), แบบหน้าเบลอหลังชัด

แบตเตอร์รี่

Oppo Finder มีความจุแบตเตอร์รี่ขนาด 1,500 mAh จากที่ผมได้ลองใช้แบบปกติ คือ เล่นเว็บ, เล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก, ถ่ายรูป และเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ในเวลาว่าง พบว่าใน 1 วันแบตยังเหลือๆ ครับ

การจำหน่าย

  • Oppo Finder เริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 15 กรกฏาคม 2555 หาซื้อตามร้านขายสมาร์ทโฟนทั่วไป
  • ราคาเปิดตัวที่ 14,990 บาท

สรุป

หลังจากที่ผมได้ใช้ Oppo Finder ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมาเขียนรีวิว ซึ่งเป็นมือถือแอนดรอยด์เครื่องแรกของผม (ก่อนหน้านี้ใช้ iPhone มาก่อน) นับว่า Oppo Finder ให้ประสบการณ์การใช้มือถือแอนดรอยด์ของผมได้สมบูรณ์แบบมากๆ ครับ ด้วยการใช้งานที่ไหลลื่น ตอบโจทย์การทำงานได้ครอบคลุม (อาจจะเป็นเพราะผมเพิ่งได้ใช้แอนดรอยด์ครั้งแรกเลยตื่นเต้น) โดยรวมแล้ว โอเคมากๆ เลยครับ

ซึ่งตอนนี้เจ้า Oppo Finder ก็ทำให้ผมหยิบจับ iPhone 4S ออกมาใช้ น้อยลงกว่าเดิมแล้วแน่ๆ ครับ

จุดเด่น

  • สเป็คค่อนข้างแรงพอสมควร ทำให้ใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่ค้าง
  • วัสดุของตัวเครื่องดูมีความแข็งแรง ทนทาน
  • ดีไซน์ตัวเครื่องที่บางเฉียบ และงานประกอบที่ละเอียดพอสมควร
  • ถึงแม้ตัวเครื่องจะมีขนาดบาง&เบา แต่ยังสามารถจับถือได้อย่างถนัดมือ
  • กล้องถ่ายภาพทำงานได้เร็ว และมีความชัดมากพอสมควร
  • ถ่ายวีดิโอได้แบบ HD (1080 p)

จุดด้อย

  • ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 ม.ม.
  • ไม่สามารถเพิ่มความจุด้วย SD Card ได้

ฟันธง

Oppo Finder เป็นมือถืออีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่คุ้มค่าเกินราคา ให้ประสบการณ์การใช้ Android ได้อย่างน่าประทับใจ ไว้เมื่อถึงวันที่วางจำหน่ายจริงๆ ลองไปเล่นเครื่องทดสอบตามหน้าร้านดูก่อนได้ครับ รับรองไม่ผิดหวัง :)

เก็บตกภาพประกอบจาก Line Camera :)

 


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!