True Smart Life Smart City : อภิมหาโปรเจคพลิกเมืองไทยให้เป็น Smart City

โลกเทคโนโลยีในทุกวันนี้กำลังหมุนไปสู่ยุคใหม่ ที่หลายคนเรียกว่า IoT (ย่อมาจากคำว่า Internet Of Things) ยุคที่สิ่งของหรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ รอบตัว เชื่อมต่อเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาด ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น สมาร์ทขึ้น ซึ่งล่าสุดกลุ่มทรู (True) ก็ได้เตรียมอภิมหาโปรเจค ที่จะพลิกเมืองไทยให้เป็น Smart City ด้วยการจัดงานโชว์นวัตกรรมครั้งใหญ่ที่ห้าง The EmQuatier ในชื่องานว่า True Smart Life Smart City

โดยทางทรูก็ได้เชิญผมและเหล่าบล็อกเกอร์ด้านไอทีไปเยี่ยมชมบูทต่างๆ ในงานนี้ ซึ่งผมจะมาเล่ารายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับงานนี้ให้ทุกท่านได้ทราบไปด้วยกันครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่างานนี้ได้แบ่งโซนต่างๆ ออกเป็น 5 บูทใหญ่ๆ ดังนี้

  1. Smart City (ชั้น MF)
  2. Smart Bussiness (ชั้น MF)
  3. Smart Life (ชั้น 3F)
  4. Smart Building (ชั้น 3F)
  5. Smart Home (ชั้น 3F)

ซึ่งแต่ละบูทจะมีอะไรมาโชว์บ้าง เชิญรับชมกันได้เลยครับ …

Smart City

เป็นการโชว์คอนเซ็ปของเมืองอัจฉริยะแห่งอนาคต สะท้อนแนวคิดของเมืองใหญ่ในอนาคตที่สามารถนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการ บริหารจัดการได้อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น Smart Government  ระบบจัดการเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะสั่งการช่วยเหลือผ่านศูนย์ควบคุมส่วนกลาง (War room), ระบบกล้องวงจรปิด (City Surveillance CCTV) เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและความเรียบร้อยภายในตัวเมือง และ Smart Metering ระบบการอ่านหน่วยมิเตอร์อัตโนมัติจากส่วนกลาง

ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการสาธิตระบบกล้องวงจนปิดอัจฉริยะให้เหล่าบล็อกเกอร์ได้ดูกันด้วยครับ โดยระบบกล้องวงจรปิดตัวนี้สามารถตรวจจับได้ว่ามีบุคคลใดวางกระเป๋าหรือวัตถุต้องสงสัยอะไรทิ้งไว้หรือไม่ หากตรวจพบก็จะมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลโดยอัตโนมัติทันที

และในบูทนี้ได้มีการโชว์ต้นแบบ “รถยนต์อัจฉริยะ” โดยความร่วมมือกันระหว่าง True และ MG6 นำระบบสำหรับเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องยนต์ทุกอย่างไว้ผ่านระบบคลาวด์ สามารถเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลาผ่านแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า InkaNet

Smart Bussiness

บูทนี้เป็นบูทโชว์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ที่จะมาช่วยเสริมประสิทธิภาพและดำเนินธุรกิจ ให้คล่องตัว ทำงานได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา ประกอบด้วย Smart Office ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านคลาวด์ ด้วยโซลูชั่นมากมาย เช่น VCaas (การประชุมทางไกลผ่านคลาวด์)

รวมไปถึง โซลูชั่นใหม่ๆ อย่าง Office 365 และ Chromebook คอมพิวเตอร์ที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทั่วโลก ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันทาง True IDC ก็ได้วางจำหน่ายแล้วในราคา 8,990 บาท

Smart Restaurant บริหารจัดการร้านอาหารง่ายๆ ด้วยบริการ Social WiFi, Digital Signage และ Cloud CCTV

และ Smart Transport  การบริหารระบบขนส่งแบบเรียลไทม์ สามารถติดตามยานพาหนะได้จากส่วนกลาง

Smart Life

ถัดจาก Smart Bussiness เดินขึ้นต่อมาที่ชั้น 3F จะพบกับบูท Smart Life เป็นบูทที่แสดง Gadget และสมาร์ทดีไวซ์สุดล้ำเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ อาทิ สมาร์ทวอทช์, สปอร์ตวอทช์, อากาศยานไร้คนขับ (Drone), กล้อง Go Pro, หลอดไฟ LED บลูทูธ (Play Bulb), และเกมคอนโซล เป็นต้น ซึ่งในการสาธิตตัวอย่างที่ผมได้ดูนั้น เป็นการโชว์โดรนประสิทธิภาพสูงยี่ห้อ Parrot ที่มีกล้องในตัว พร้อมสามารถควบคุมได้ผ่าน iPad อีกด้วย

Smart Building

บูทนี้จะแสดงนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยหรือคอนโด ให้มีประสิทธิภาพความปลอดภัย เพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มทางเลือกในการควบคุมผ่านส่วนกลาง ประกอบด้วย Cloud CCTV ระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติทั้งภายในและภายนอกรอบที่พักอาศัย, Car Park Recognition ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถผ่านกล้องแบบอัตโนมัติ

ID & Passport Recognition ระบบการพิสูจน์ตัวตนด้วยเลขที่บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางก่อนเข้าอาคาร เพียงแค่นำบัตรต่างๆ เข้าเครื่องสแกน ตัวซอฟท์แวร์ OCR ก็จะประมวลผลออกมาเป็นข้อความให้ทันที (รองรับภาษาไทยด้วย !)

Smart Home

มาถึงบูทสุดท้าย ซึ่งเป็นบูทที่น่าสนใจและใกล้ตัวเราหลายคนมาก นั่นคือ Smart Home เป็นนวัตกรรมที่จะมาเปลี่ยนบ้านให้อัจฉริยะขึ้นด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลที่เชื่อมต่อได้เพียงปลาย นิ้วสัมผัส เพื่อเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัย และความบันเทิงแก่ทุกคนในบ้าน

ซึ่งระบบต้นแบบบ้านอัจฉริยะที่ทรูได้นำมาสาธิตให้ชมนั้น ระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ สามารถควบคุมได้ผ่านตัวแอพพลิเคชั่นบนแท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็น การสั่งเปิดปิดไฟ, แอร์ หรือม่าน รวมไปถึงการสั่งงานสมาร์ททีวีให้เล่นรายการหรือเปลี่ยนไปช่องต่างๆ ผ่านคำสั่งด้วยเสียงพูดของเราได้อีกด้วย

ปิดท้ายด้วย True MAXX (ทรูแม็กซ์) บริการสำหรับรับชมความบันเทิงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวี กีฬา และสามารถเล่นเกมได้สดๆ ผ่านอุปกรณ์ทั้ง Android และ iOS รวมไปถึง HDMI Stick สำหรับต่อเข้ากับทีวี เพื่อรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างสมจุใจ

นอกจากการจัดแสดงนวัตกรรมด้านต่างๆ ภายในงาน True Smart Life Smart City ทั้ง 5 โซนแล้ว ที่หน้าห้าง The EmQuatier ยังมีบูทเป็นลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา มาร่วมถ่ายรูปกันอีกด้วยครับ เมื่อถ่ายแล้วภาพก็จะไปปรากฏที่จอขนาดยักษ์ทันที

สรุป

การเคลื่อนไหวของทรูครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่น่าสนใจมาก หลังจากก่อนหน้านี้ทางทรูได้ชูเรื่องของความเป็น Convergence (การนำบริการต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต มือถือ เคเบิลทีวี มาประยุกต์รวมกัน) ซึ่งโปรเจค True Smart  เป็นการต่อจิ๊กซอว์ของบริการต่างๆ ทั้งบริการเดิมที่มีอยู่แล้ว และบริการใหม่ๆ ภายในเครือ ให้เป็นภาพที่ชัดเจนและพร้อมที่จะเข้าถึงผู้ใช้อย่างเราและธุรกิจต่างๆ ได้มากขึ้น

สำหรับงาน True Smart Life Smart City จะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม ใครสนใจหรือผ่านไปแถวนั้นสามารถไปเยี่ยมชมกันได้ครับที่ห้าง The EmQuatier ชั้น M และชั้น 3 เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ และผมขอปิดท้ายการพาชมงานครั้งนี้ด้วยคลิปวีดิโอแนะนำคอนเซ็ปของ True Smart Life Smart City ความยาว 4:30 นาที

ใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.truesmart.com (เว็บไซต์สวยงามมากครับ ดูเพลินๆ)

ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!
TANA:
Related Post