คู่มือเลือกซื้อทีวี ดูอะไรบ้าง อัพเดทปี 2022

ทีวีเป็นความบันเทิงคู่บ้านที่อยู่กับเรามาอย่างยาวนาน และนับวันก็ยิ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการรับชมช่องรายการและคอนเทนต์ต่างๆ ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีหลากรุ่นหลายยี่ห้อด้วยกัน คำถามคือเราจะมีวิธีเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด วันนี้เราเลยมี วิธีเลือกซื้อทีวี ฉบับปี 2022 มาให้คุณได้ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการตัดสินใจเลือกอุปกรณ์นี้กัน

      

  วิธีเลือกซื้อทีวี ฉบับปี 2022

  1. เลือกทีวีที่เป็นสมาร์ททีวี

ยุคนี้เป็นยุคของความบันเทิงออนไลน์ ที่เราสามารถเลือกรับชมรายการโปรดได้ทุกเวลาไม่จำเป็นที่จะต้องเฝ้าหน้าจอรอการออนแอร์อีกต่อไป ซึ่งสมาร์ททีวีจะตอบโจทย์และคุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อความบันเทิงมากกว่าในระยะยาว โดยมาพร้อมกับฟังก์ชันที่มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การลงแอปพลิเคชันเพื่อความบันเทิงเช่น YouTube, Netflix การสะท้อนภาพจากหน้าจอมือถือ พอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลายเพื่อการเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ บางรุ่นยังสามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงได้อีกด้วย

  1. เลือกจากดีไซน์และขนาดของหน้าจอ

วิธีเลือกซื้อทีวี ฉบับปี 2022 ข้อต่อมาก็คือการเลือกจากดีไซน์และขนาดของหน้าจอ ซึ่งต้องบอกว่าทีวีในปัจจุบันมากับความทันสมัย หรูหรา สวยงาม ในระดับที่ว่าสามารถใช้เป็นของตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่งได้เลยทีเดียว ตัวเครื่องและขอบจอก็มีความบางมากขึ้นเพิ่มพื้นที่ในการรับชม ในส่วนของการเลือกขนาดของหน้าจอนั้นนอกจากความชอบแล้วยังสามารถใช้เกณฑ์ของระยะห่างกับหน้าจอที่เหมาะสมได้ด้วยคือ

-ทีวีขนาดต่ำกว่า 32 นิ้ว ระยะในการรับชมอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร

-ทีวีขนาด 55 นิ้ว ระยะในการรับชมอยู่ที่ประมาณ 1.7 เมตร

-ทีวีขนาด 65 นิ้ว ระยะในการรับชมอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร

-ทีวีขนาด 75 นิ้ว ระยะในการรับชมอยู่ที่ประมาณ 2.3 เมตร

-ทีวีขนาด 85 นิ้ว ระยะในการรับชมอยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตร

  1. เลือกทีวีจากความละเอียดของหน้าจอ

ความละเอียดของหน้าจอคืออีกเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเพราะมันหมายถึงความคมชัดและอรรถรสในการรับชม คำถามคือแล้วความละเอียดระดับไหนที่เหมาะสม จะเป็นแบบ FHD, ความละเอียด 4K หรือว่า 8K ดี ซึ่งถ้าพิจารณาจากเนื้อหาคอนเทนต์ในปัจจุบันความคมชัดระดับ 4K น่าจะเป็นทางเลือกที่ลงตัว เพราะ FHD ก็ดูจะน้อยไป ส่วน 8K นั้นแม้จะให้รายละเอียดมากกว่าแต่เนื้อหาต่างๆ ก็ยังมีน้อย ยกเว้นว่ามีงบประมาณไม่จำกัดก็เลือกได้ตามที่ต้องการเลย

  1. เลือกทีวีจากประเภทของหน้าจอ

หลายคนน่าจะเคยได้ยินประเภทของหน้าจอทีวีกันมาบ้างว่ามีทั้งแบบ LED, OLED และ QLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด โดยหากเป็นจอ LED นั้น ราคาจะต่ำกว่าแบบอื่นแต่มีจุดด้อยในเรื่องของค่าคอนทารสต์ที่ไม่สูงนัก และมุมมองภาพด้านข้างอาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง ส่วนจอ OLED ราคาจะขยับขึ้นมา ให้ค่าคอนทราสต์ที่สูง จุดด้อยคือบางครั้งอาจเกิดปัญหาจอเบิร์นขึ้นได้ ในขณะที่จอแบบ QLED คือแบบที่พัฒนามาจาก LED ค่าคอนทราสต์จะอยู่ตรงกลางระหว่างอีกสองแบบคือสูงกว่า LED แต่ต่ำกว่า OLED และยังมีความคมชัดสมจริงที่สุดในบรรดาหน้าจอทีวีด้วย

  1. เลือกทีวีจากคุณภาพเสียง

ภาพสวย จอใหญ่ ถ้าจะให้เต็มอิ่มทุกความบันเทิงมากขึ้น เสียงก็ต้องดีด้วย โดยในปัจจุบันระบบเสียงเดิมๆ ของทีวีก็ถือว่าให้มาอย่างน่าพอใจ บางรุ่นอาจมีซาวนด์บาร์ติดตั้งมาให้ในตัวด้วยซึ่งราคาก็แตกต่างกันออกไป หรือใครอยากได้เสียงที่กระหึ่มมากขึ้นก็สามารถซื้อลำโพงแยกมาเพิ่มก็ได้ มีตั้งแต่ลำโพงธรรมดาไปจนถึงลำโพงเกมมิ่งให้เลือกใช้กันตามงบประมาณ

  1. เลือกทีวีจากฟังก์ชันการทำงานและระบบปฏิบัติการ

ฟังก์ชันการทำงานถือเป็นจุดขายของทีวีในปัจจุบัน โดยเราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้ที่ล้ำสมัยขนาดไหน แน่นอนว่าแลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้นเช่นกัน อาทิ ความสามารถในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ การนำภาพจากมือถือขึ้นบนจอทีวี มีโหมดการเล่นเกม การรองรับคำสั่งเสียง การเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย รองรับ Apple TV หรือ มี Chromecast ในตัว ใช้ควบคุมอุปกรณ์ IoT ได้ ซึ่งระบบปฏิบัติการของทีวีในปัจจุบันก็จะมีทั้ง Android TV, Tizen ของ Samsung และ WebOS จาก LG ที่มากับผู้ช่วยอัจฉริยะในชื่อ ThinQ AI

  1. เลือกทีวีจากยี่ห้อและราคา

วิธีเลือกซื้อทีวี ฉบับปี 2022 ข้อสุดท้ายแต่ก็ถือว่ามีความสำคัญที่สุดก็ว่าได้นั่นก็คือการเลือกทีวีจากราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ โดยมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายหมื่นบาท ยี่ห้อของผู้ผลิตก็มีมากมาย ซึ่งการเลือกซื้อจากยี่ห้อมาตรฐานที่เราคุ้นเคย มีศูนย์บริการครอบคลุม จะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้นในกรณีที่ตัวเครื่องเกิดมีปัญหาในช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขของการรับประกันสินค้า

และนี่ก็คือวิธีเลือกซื้อทีวี ฉบับปี 2022 ที่เรานำมาฝากเพื่อให้คุณได้ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อทีวีเอาไว้เป็นความบันเทิงคู่บ้านกัน โดยหลักๆ แล้วก็จะขึ้นอยู่กับงบประมาณ ขนาดของหน้าจอ ฟังก์ชันการทำงาน และระบบการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ และเครือข่ายไร้สาย ย้ำอีกครั้งว่าเลือกทีวียี่ห้อที่มีศูนย์บริการครอบคลุมจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวในภายหลังหากเกิดปัญหาขึ้น

ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!
TANA:
Related Post