รีวิว : Chromecast คืออะไร ? ทำอะไรได้บ้าง ? ทำไม AIS ถึงต้องเอามาขาย ?

จากข่าวที่ค่ายมือถือเบอร์ 1 ในไทยอย่าง AIS นำ Chromcast เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมๆ กับการประกาศว่า AIS ได้รับสิทธิ์การนำช่องทีวีภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังในเครือ HBO, FOX และช่องกีฬา NBA มาลงใส่ไว้ในบริการ AIS Play ให้ลูกค้า AIS สามารถรับชมได้ในรูปแบบของ Pay TV หรือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ True Vision นั่นเอง ทำให้ตอนนี้หลายคนให้ความสนใจและส่งสายตามาเจ้าที่อุปกรณ์ “Chromecast” ว่าเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มันเอาไว้ทำอะไร ทำไม AIS ถึงต้องนำมาขาย วันนี้ผมจะมาอธิบายให้พอสังเขปครับ

ภาพประกอบในงาน AIS Vision 2017 จาก Nation Multimedia

Chromecast ไม่ใช่ของใหม่ !

เนื่องจากยังมีคนเข้าใจผิดหรือสับสนอยู่ ก่อนจะไปเรื่องอื่น ขอให้ทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า Chromecast นั้นไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด เปิดตัวครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2013 โดยผู้ผลิตคือบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่าง Google นั่นเอง ซึ่งในปีนั้นเอง ทางนิตยสาร TIME ถึงกับยกให้ Chromecast เป็น Gadget แห่งปีเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยน “แนวคิด” ของระบบความบันเทิงบนหน้าจอทีวีจากเดิมที่ ตอนนั้นเรายังรู้จักกันแต่ Smart TV หรืออุปกรณ์จำพวก Set-top box เช่น กล่องทีวีดาวเทียม หรือกล่อง iptv ต่างๆ มาเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ราคาถูก ที่เสียบเข้าไปในพอร์ต HDMI หลังทีวี จากนั้นจะทำให้เราสามารถรับชมคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต (WiFi) ผ่านการควบคุมจาก Smart Phone (ซึ่งผมจะกล่าวแบบละเอียดในหัวข้อถัดไป)

จากปี 2013 มาถึงปัจจุบัน Chromecast มีทั้งหมด 3 generation โดย gen. 2 เปิดตัวปี 2015 หลัง gen. 1 สองปี โดยมีการเปลี่ยนรูปร่างมาเป็นแบบกลมๆ และมีสายยื่นออกมา แทนการใช้รูปแบบแท่ง เพื่อความยืดยุ่นในการเสียบกับทีวีแต่ละรุ่นที่ใส่พอร์ต HDMI มาในตัวแหน่งที่แตกต่างกัน และเพิ่มการรองรับการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ WiFi แบบ 5GHz อีกด้วย

และล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว Google ได้เปิดตัว Chromecast gen. 3 หรือมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Chromecast Ultra โดยเพิ่มความสามารถในการรองรับการส่งสัญญาณภาพแบบ 4K เข้ามา

และที่ AIS นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้นก็คือ Chromecast gen. 2 ครับ โดยขายในราคา 1,490 บาท ผ่านทาง AIS Online Store

Chromecast เอาไว้ทำอะไร ?

ได้เห็นหน้าตาคร่าวๆ กันไปแล้ว ต่อไปผมจะมาตอบคำถามที่หลายคนยังสงสัยอยู่ ว่าแล้วตกลง Chromecast เอาไว้ทำอะไรกันแน่ ? … Chromecast เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สตรีมมิ่ง หรือที่กูเกิลเรียกว่า “Cast” ไฟล์มัลติมีเดียจากอินเทอร์เน็ต/แอป/คอมพิวเตอร์ หรือบริการต่างๆ เข้าไปเล่นบนหน้าจอทีวีผ่านสัญญาณ WiFi ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีแบบสดๆ รายการทีวีย้อนหลัง คลิปวิดีโอ รูปภาพ เพลง หรืออื่นๆ แล้วแต่จะประยุกต์ โดยเราสามารถสั่งให้ Chromecast สตรีมข้อมูลใดๆ ผ่านสมาร์ทโฟน แท็บแล็ต หรือคอมพิวเตอร์ หรือจะให้อธิบายแบบกระชับๆ ให้เห็นภาพก็คือ

Chromecast เป็นอุปกรณ์ที่ “ทำให้ทีวีต่อเน็ตได้” แล้วใช้มือถือ แท็บเล็ต หรือคอม เป็น “รีโมท” สั่งให้ Chromecast เล่นมัลติมีเดียต่างๆ แทนกล่อง set-top box หรือ smart tv แบบเดิมๆ

รูปแบบการใช้งาน

รูปแบบการใช้งานและติดตั้ง Chromecast เริ่มง่ายๆ 3 ขั้นตอน คือ

  1. เสียบตัว Chromecast เข้าที่ช่อง HDMI ของทีวี (ทีวีต้องมีพอร์ต HDMI และไม่จำเป็นต้องเป็น smart tv) พร้อมเสียบสาย USB สำหรับเป็นไฟเลี้ยงให้ตัว Chromecast จะเสียบจากช่อง USB ของทีวี (ถ้าทีวีรองรับ HDMI ส่วนมากก็จะมีช่อง USB สำหรับไฟเลี้ยงมาให้ด้วย) หรือถ้าทีวีไม่มีช่อง USB ในกล่องแพ็กเกจของ Chromecast ก็แถมอะแดปเตอร์สำหรับเสียบปลั๊กมาให้ด้วย
  2. ใช้สมาร์ทโฟน (Android หรือ iOS ก็ได้) เชื่อมต่อไปที่ตัว Chromecast ผ่านแอป Google Home เพื่อสั่งให้ Chromecast ต่อ WiFi ที่บ้านของเรา
  3. พร้อมใช้งาน Chromecast ได้ทันที (ขั้นตอนที่ 1-2 ทำครั้งเดียว เมื่อเปลี่ยนทีวีหรือเปลี่ยน WiFi ใหม่)

สรุป จะใช้ Chromecast ต้องมีอะไรบ้าง ?

  1. ตัว Chromecast (แหง แหล่ะ)
  2. ทีวีที่มีช่อง HDMI ไม่จำเป็นต้องเป็น Smart TV ราคาแพง
  3. สมาร์ทโฟน (Android หรือ iPhone/iPad ก็ได้)
  4. สัญญาณ WiFi ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

Chromecast ทำอะไรได้บ้าง

ปัจจุบันมีหลายแอปที่รองรับการใช้งานกับ Chromecast ได้ ที่ดังและใช้บ่อยที่สุดก็คือ Youtube เราสามารถเปิด/จัดคิววิดีโอใดๆ ที่มีบน Youtube ให้ไปเล่นบนหน้าจอทีวี ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถจัดผังรายการที่จะเล่นบนทีวีเองได้ตามใจชอบ ยกตัวอย่างเช่น ดูข่าวของช่อง Thairath TV, Thai PBS, PPTV หรือช่องอื่นๆ ที่อัพคลิปลง Youtube, ฟังเพลง/ดู MV จากค่ายแกรมมี่ อาร์เอส  หรือดูรายการบันเทิงของช่อง WorkPoint TV อันนี้ทุกรายการก็ล้วนมีอยู่บน Youtube ทั้งสิ้น…ใครที่ไม่มีเวลาดูทีวีสดๆ การเปิดดูรายการย้อนหลังผ่าน Youtube ด้วย Chromecast บนจอทีวี น่าจะตอบโจทย์มากๆ  นอกจากนี้ยังมีแอปอื่นๆ อีกนับร้อยที่รองรับการใช้งานกับ Chromecast อาทิ Netflix, iflix, Google Play Movie, Primetime, HOOQ, AIS Play, Dailymotion รวมไปถึง Facebook Video และ Facebook Live

และยังสามารถเชื่อมต่อกับ Google Chrome บน PC/Mac ได้อีกด้วย (จะกล่าวในบทความต่อไป)

Chromecast ไม่ใช่การ mirror หน้าจอมือถือ ระหว่างเล่นสามารถใช้มือถือทำอย่างอื่นได้ด้วย

อีกความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Chromecast หลายคนคิดว่าการใช้ Chromecast เป็นการส่งหน้าจอ มือถือไปแสดงบนทีวี (mirror) แต่จริงๆ แล้วมือถือเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ “สั่งการ” เหมือนรีโมททีวีเท่านั้น โดยตัว Chromecast จะทำการดึงไฟล์จากอินเทอร์เน็ตมาแสดงบนทีวีโดยตรงไม่ได้ดึงผ่านมือถือเรา ดังนั้นเมื่อเราสั่งเปิดไฟล์หรือจัดคิวคอนเทนต์ที่อยากดูเสร็จแล้ว สามารถปิดหน้าจอมือถือหรือใช้แอปอื่นๆ ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเปิดแอปนั้นๆ ตลอดเวลา

ทำไม AIS ถึงต้องนำ Chromecast เข้ามาขาย

อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าจริงๆ แล้ว Chromecast  ไม่ใช่ของใหม่ เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 แต่ยังไม่มีขายในไทยอย่างเป็นทางการ (ที่ใช้ๆ กันก่อนหน้านี้คือหิ้วมาจากประเทศอื่น นั่นเอง) แต่ล่าสุดที่เป็นข่าวก็เพราะ AIS เป็นผู้นำเข้า เอา Chromecast มาขายในไทยอย่างเป็นทางการ สาเหตุเพราะ AIS ต้องการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ใช้บริการ AIS Play ของตนเอง สามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้บนหน้าจอทีวี โดยไม่ต้องใช้กล่อง AIS Playbox หรือไม่จำเป็นต้องติดเน็ต AIS Fibre นั่นเอง เพียงแค่เสียบ Chromecast กับทีวี แล้วเปิดแอป AIS Play บนมือถือ ก็สามารถเล่นความบันเทิงต่างๆ ในหน้าจอทีวีได้ทันที ส่วนจะเป็นการรับชมแบบฟรี หรือเก็บเงิน ก็ว่ากันอีกที

ลองใช้ Chromecast

หลังจากเสียบ Chromecast เข้ากับทีวีเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการติดตั้งแอป Google Home ลงบนสมาร์ทโฟนก่อนเพื่อทำการตั้งค่า WiFi ให้ Chromecast จากนั้นให้ใช้มือถือของเราเชื่อมต่อ WiFi ไปยัง Chromecast ของเราโดยตรง

เปิดแอป Google Home แล้วทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าเลือกเครือข่าย WiFi , ใส่รหัสให้ถูกต้อง (ถ้ามี)

เพียงเท่านี้ Chromecast ของเราก็พร้อมใช้งานทันที

ยกตัวอย่างเช่น จะใช้งานร่วมกับ Youtube

ใช้สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ WiFi วงเดียวกับ Chromecast แล้วเปิดแอป Youtube ขึ้นมา จะสังเกตเห็นไอค่อนสัญลักษณ์ Chromecast ปรากฏอยู่ด้านบน สามารถกดเข้าไปเพื่อเชื่อมต่อได้ทันที

จากนั้นกดเปิดคลิปที่ต้องการดู คลิปก็จะไปเล่นบนหน้าจอทีวีทันที (เมื่อสั่งให้เล่นแล้ว เราสามารถปิดแอป Youtube หรือปิดเครื่องมือถือของเราได้ทันที เพราะเป็นการสิ้นสุดการสั่งการให้มันเล่นแล้ว) โดยเราสามารถจัดคิวของคลิปที่จะให้เล่นต่อๆ ไป ได้อีกด้วย

ทดลองใช้งานกับแอป AIS Play

ใช้ดูทีวีออนไลน์

ลองใช้กับ iPad (แอป AIS Play)

ดูภาพยนตร์ คลิปรายการต่างๆ คลิปกีฬา ฟุตบอล จาก AIS Play บนหน้าจอทีวีผ่าน Chromecast

นับว่า AIS กล้าตัดสินใจและฉลาดพอสมควรครับ ที่แค่ทำแอปให้รองรับ Chromecast อย่างเดียว เพื่อ สะดวกลูกค้า ไม่ต้องใช้กล่อง (AIS PlayBox) ก็สามารถรับชมความบันเทิงได้  ในช่วงแรกๆ learning curve ของผู้ใช้อาจจะสูงหน่อย แต่ระยะยาว เชื่อว่าน่าจะไปได้ดีมากครับ กับแนวทางนี้

และหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า Chromecast ที่ซื้อกับ AIS สามารถใช้ได้กับบริการของ AIS อย่างเดียว จริงๆ แล้ว AIS Play เป็นเพียงแค่ 1 ในหลายๆแอปที่รองรับการทำงานร่วมกับ Chromecast เท่านั้นเอง ถึงแม้จะซื้อผ่าน AIS ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์อื่นๆ ของ Chromecast ได้เต็มที่ ไม่จำกัดว่าต้องใช้กับ AIS Play เสมอไป …เดี๋ยวผมจะมาแนะนำในโอกาสต่อไปครับ


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!