3 เหตุผล ที่ทำไมต้องเลือกใช้เน็ตทรู (True Online)

ถึงแม้ความนิยมในการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมือถือ (3G/4G) จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายแล้วเกือบทุกคนก็ต้องกลับไปตายรังด้วยใช้อินเทอร์เน็ตแบบมีสายที่บ้านเป็นช่องทางหลักกันอยู่ดี เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ค่อนข้างเต็มรูปแบบมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เล่มเกม หรือเสพสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ที่ต้องใช้แบนวิทด์มหาศาล หากเป็นเน็ตมือถือมีหวังจ่ายค่า data กันบานเบอะแน่ …ในตอนนี้ผมจึงจะขอมาแนะนำ 3 เหตุผลที่ว่าทำไมต้องเลือกใช้อินเทอร์เน็ตกับ True Online (เน็ตทรู) มาฝากผู้อ่านทุกท่านครับ [Advertorial]

 

1. โครงข่ายทันสมัย รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ

สำหรับโครงข่าย (Infrastructure) ของ True Online นั้นหากเทียบกับค่ายอื่นๆ ต้องบอกว่าของทรูค่อนข้างหลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่องทางพื้นฐานสุดๆ อย่าง อินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์ (ADSL) หรือจะ advance ขึ้นมาหน่อยก็เป็นแบบ ไฟเบอร์เคเบิลอินเทอร์เน็ต (Docsis) ที่มีความเสถียรอีกทั้งยังรองรับการใช้บริการเสริมอื่นๆ ได้ และอาวุธหนักสุดอย่าง ไฟเบอร์อินเทอร์เน็ต (Fiber to the Home : FTTH) ที่เป็นการลากสายเคเบิลเข้าตรงมายังบ้านเรา ซึ่งให้ความเร็วได้สูงสุดถึง 1,000 Mbps เลยทีเดียว !!

และสิ่งที่เป็นจุดแข็งจุดหนึ่งของ True Online ก็คือปริมาณแบนวิทหรือขนาดท่อการเชื่อมต่อข้อมูลของทรูมีความกว้างที่ไม่น้อยหน้าหรือเป็นรองกับคู่แข่งรายอื่นๆ โดยเฉพาะแบนวิทที่ออกไปนอกประเทศ ใครที่เล่นเกมออนไลน์น่าจะทราบกันดีครับว่าเน็ตทรูค่อนข้างต่อออกนอกประเทศได้ดีและนิ่งมากเลยทีเดียว

2. แพ็กเกจมีให้เลือกหลากหลาย

ในเรื่องของแพ็กเกจหรือราคาการให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน ปัจจุบันขั้นต่ำอยู่ที่ 10 Mbps ราคาประมาณ 600 บาทต่อเดือน เช่นเดียวกันทุกค่าย แต่ถ้าเป็น True Online ที่เชื่อมต่อแบบ Docsis จ่ายราคาเดิมแต่จะได้ความเร็วถึง 15 Mbps

ขยับแพ็คเกจขึ้นมาอีกนิดเพิ่มเงินอีก 100 เป็น 699 บาทต่อเดือน ก็จะได้สปีดที่ 18 Mbps (Docsis )

ส่วนถ้าเป็นของแรงอย่าง FTTH ก็เริ่มต้นขั้นต่ำที่ 20 Mbps ราคา 799 บาทต่อเดือน ไปจนถึงความเร็ว 1,000 Mbps ที่ราคา 19,999 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว …เรียกว่ามีแพ็กเกจให้เลือกทุกระดับ หลากหลายรูปแบบการใช้งานมากกว่าค่ายอื่นชัดเจนครับ

3. บริการเสริมโดนใจ

อีกจุดที่กลุ่มของทรูทำได้ดีมาตลอด นั่นคือการ convergence หรือรวมบริการต่างๆ เข้ามาเป็นแพ็กเดียวกัน เช่น แพ็กเกจ “ทรูสุขคูณสาม” ที่จ่ายเงินค่าบริการก้อนเดียวแต่สามารถใช้บริการได้ทั้งเคเบิลทีวีจาก True Vision, อินเทอร์เน็ตจาก True Online เครือข่ายมือถือของ Truemove H และยังไม่รวมบริการเสริมอื่นๆ อย่าง สิทธิ์การใช้ True WiFi ได้กว่าแสนจุดทั่วประเทศ หรือการดูทีวีผ่านมือถือด้วย TrueVisions Anywhere เป็นต้น

นอกจากบริการเสริมแล้ว ในเรื่องการบริการหลังการขาย True Online ก็ยังโดดเด่น ที่สามารถของคำแนะนำและชำระค่าบริการผ่านศูนย์บริการในเครือของทรูได้แทบทุกสาขา หรือหากมีปัญหาทางเทคนิคสามารถติดต่อผ่าน Call Center ได้ทันที

หากสนใจสามารถดูรายละเอียดบริการของ True Online ได้ที่ http://trueonline.truecorp.co.th


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!