Xiaomi Mi5 : สเปคจัดหนัก, ดีไซน์จัดเต็ม ในราคาเบาๆ

By TANA On February 24, 2016 In News, Mobile No Comments

Xiaomi แบรนด์เจ้าของฉายยา Apple แห่งประเทศจีน ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง (flagship) ตัวใหม่ล่าสุดประจำปี 2016 ในชื่อรุ่น Xiaomi Mi5 ซึ่งก็เป็นไปตามคาดครับว่าค่ายนี้เขาเน้นสเปคแบบจัดหนักจัดเต็ม แต่วางขายในราคาที่สุดแสนจะสบายกระเป๋า

สำหรับการออกแบบของ Xiaomi Mi5 นั้นทำออกมาได้ค่อนข้างประณีตทั้งรายละเอียดของความโค้งมน ความบาง และวัสดุที่เป็นโลหะ หุ้มด้วยกระจกทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากๆ (เทียบเท่ากับแบรนด์อื่นๆ ที่ราคาแพงกว่าเกือบ 2 เท่า)

นอกจากรุ่นปกติที่ฝาหลังเคลือบด้วยกระจกแล้ว Mi5 ยังมีรุ่นโปรที่เคลือบด้วยเซรามิคอีกด้วย นอกจากทำให้ตัวเครื่องดูเงางามตลอดเวลาแล้ว ยังมีความแข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วนต่างๆ อีกด้วย

ภาพนี้ดูแพงมากๆ

นอกจากการออกแบบที่งดงามแล้ว Mi5 ยังมีน้ำหนักเบากว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง iPhone 6s อีกด้วย

ในด้านของสเปค Xiaomi ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง แบรนด์นี้เขาเป็นผู้นำเทรนด์เรื่องการอัพสเปคอยู่แล้ว โดยในรุ่นนี้ได้ใช้ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดของ Snapdragon อัดแรมมาให้ 4GB หน่วยความจำภายในสูงสุดถึง 128GB พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ

สรุปสเปคของ Xiaomi Mi5

หน้าจอขนาด 5.15 นิ้ว ความละเอียด 4K
ชิปประมวลผล Snapdragon 820, ชิปกราฟิก Adreno 530
แรม 4GB
ความจุ 32GB, 64GB และ 128GB
แบตเตอร์รี่จุ 3,000mAH
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ของ Sony IMX298) พร้อมแฟลชคู่
กล้องหน้า 4 ล้านพิกเซล
รองรับ 4G ด้วยความเร็วสูงสุด 600Mbps (Cat.12) สำหรับรุ่น Pro
รองรับ NFC
มีฟีเจอร์อ่านลานนิ้วมือด้านหน้าเครื่อง
รองรับ QuickCharge 3.0
ตัวเครื่องมีสีทอง สีดำ และสีขาวให้เลือก

Mi5 Pro รองรับ 4G แรงสุด 600Mbps เลยทีเดียว

รองรับมาตราฐาน QuickCharge 3.0 ชาร์จแบตฯ ได้เร็วขึ้น

ส่วนเรื่องของกล้อง Mi5 ได้ใส่เทคโนโลยี 4-axis OIS หรือระบบกันสั่นแบบ 4 แกนให้มาด้วย ทำให้การถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Mi5

Xiaomi Mi5 เปิดราคาออกมาเริ่มต้นที่ 1,999 หยวน หรือประมาณ 10,920 บาท สำหรับรุ่นความจุ 32GB และราคา 2,299 หยวน หรือ 12,500 บาท สำหรับความจุ 64GB ส่วนรุ่น Pro ที่ฝาหลังเป็นเซรามิกและความจุ 128GB มีค่าตัวที่ 2,699 หยวน หรือประมาณ 14,800 บาท ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายนั้น จะขายในจีนเป็นประเทศแรกวันที่ 1 มีนาคมนี้ โดยยังไม่มีวี่แววว่าจะเข้ามาขายในประเทศไทยหรือไม่ …ต้องพึ่งร้านตู้สถานเดียว