ให้ลูกดูหน้าจอโทรศัพท์ เสี่ยงเป็น “โรคออทิสติกเทียม” จริงหรือไม่

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตก็แพร่หลายไปถึงเด็กเล็กด้วย แต่การให้เด็กอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการได้นะครับ

เด็กที่ใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป อาจเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า “ออทิสติกเทียม” ซึ่งไม่ใช่โรคทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ แต่เป็นอาการที่คล้ายคลึงกับออทิสติกในบางด้าน เช่น มีปัญหาในการสื่อสาร ขาดทักษะทางสังคม หรือติดอยู่กับพฤติกรรมบางอย่างซ้ำๆ เป็นต้น สาเหตุมาจากการที่เด็กไม่ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม

การใช้หน้าจอมากเกินไปนั้นอาจส่งผลกระทบในหลายด้าน ได้แก่

  1. ด้านสังคมและอารมณ์ เด็กอาจมีโอกาสฝึกทักษะการสื่อสารและการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นน้อยลง
  2. ด้านภาษา การพัฒนาทักษะทางภาษาอาจล่าช้า เนื่องจากไม่ได้รับการกระตุ้นจากการสนทนาและการอ่านหนังสือมากพอ
  3. ด้านการเคลื่อนไหว เด็กอาจมีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาการทรงตัวและการควบคุมการเคลื่อนไหว
  4. ด้านการนอนหลับ แสงสีฟ้าจากหน้าจออาจรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับ

เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมวัย แนะนำให้ผู้ปกครองจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอให้เหมาะสม ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบไม่ควรใช้หน้าจอเกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบไม่ควรสัมผัสหน้าจอเลย นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้เด็กได้ออกกำลังกายและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย

การใช้หน้าจอเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการ หากผู้ปกครองสังเกตเห็นพฤติกรรมที่น่ากังวล ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม เพราะการดูแลอย่างใกล้ชิดและให้การกระตุ้นที่ถูกวิธีนั้นมีความสำคัญมากสำหรับการเจริญเติบโตของเด็กในทุกด้านนะครับ


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!