วิธีซื้อเหรียญ PokeCoins ใน Pokemon Go สำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิต

มีหลายคนที่อยากซื้อ PokeCoins ใน Pokemon Go ซึ่งโดยปกติแล้วการจะซื้อของในเกมนั้นจะต้องมีบัตรเครดิตสำหรับให้ระบบของ Apple หรือ Google Play ใช้หักเงิน ทำให้คนที่ไม่มีบัตรเครดิตไม่สามารถซื้อได้ด้วยวิธีปกติๆ ได้ แต่จริงๆ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการหลายรายเปิดบริการ “บัตรเครดิตจำลอง” หรือ “Virtual credit” ออกมาอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ที่ไม่มีบัตรเครดิตจริงๆ สามารถซื้อของหรือบริการผ่านทางออนไลน์ได้เหมือนกัน ซึ่งช่องทางที่ผมจะมาแนะนำในครั้งนี้เป็นของทางแอป Wallet by truemoney (บอกก่อนว่า ถึงแม้จะเป็นบริการของทรู แต่คนใช้ค่ายอื่นๆ ก็สามารถสมัครได้นะครับ)

โดยเหตุผลที่ผมแนะนำเป็นบริการของ True Wallet เพราะว่าแอปนี้สามารถสมัครได้ง่ายๆ ในสมาร์ทโฟนของแต่ละคน ต่างกับบริการ Virtual credit ของทางธนาคารที่จะต้องไปทำการเปิดบัญชีหรือแจ้งเรื่องที่สาขาให้วุ่นวาย อีกทั้ง True Wallet ยังรองรับการจ่ายเงินกับ iTunes Store (ของ Apple) และ Play Store (ของ Android) อีกด้วย

1. ดาวน์โหลด ติดตั้ง และเปิดใช้งานแอป Wallet

  1. ดาวน์โหลดแอป Wallet : สำหรับ Android | สำหรับ iPhone
  2. เปิดแอป Wallet ทำการสมัครบัญชีด้วยอีเมล เบอร์โทร ชื่อ-นามสกุลจริง และเลขประจำตัวประชาชน (ด้วยเหตุผลที่มันสามารถใช้จ่ายเงินได้ จึงต้องปฏิบัติการกฏของธนาคารแห่งประเทศไทย)

เมื่อสมัครเสร็จแล้ว จะเข้าไปที่หน้ากระเป๋าเงินหลักของเรา มียอดเงิน 0.00 บาทปรากฏอยู่ ถ้าเป็นเช่นนี้ แสดงว่าบัญชี Wallet ของเราพร้อมใช้แล้ว

2. เติมเงินเข้ากระเป๋า Wallet

การเติมเงินเข้ากระเป็า Wallet ของเราสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการโอนผ่านระบบของธนาคารไม่ว่าจะเป็น e-banking หรือตู้ ATM แต่วิธีที่น่าจะสะดวกที่สุดที่ผมแนะนำนั่นก็คือการเติมเงินที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ครับ เพราะสามารถจ่ายด้วยเงินสดได้ หาสาขาได้ง่าย และไม่เสียค่าธรรมเนียม โดยมีขั้นตอนดังนี้ครับ

  1. ไป 7-11 เปิดแอป Wallet เข้าไปที่เมนู เติมเงิน > เลือกที่โลโก้ 7-11 จะปรากฏบาร์โค้ดเติมเงินของเรา
  2. แจ้งพนักงานหน้าเค้าเตอร์ว่า “เติมเงิน ทรูวอลเล็ต” พร้อมยื่นมือถือที่มีหน้าบาร์โค้ดของเราให้กับพนักงาน
  3. แจ้งจำนวนเงินที่ต้องการเติม โดยสามารถเติมได้ขั้นต่ำที่ครั้งละ 150 บาท สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
  4. จ่ายเงินให้พนักงาน … เป็นอันเสร็จ จะได้รับ SMS ว่าเงินเข้าบัญชี Wallet ของเราแล้ว

3. เปิดการใช้งาน We Card

ตอนนี้ในกระเป๋า Wallet ของเรามีเงินพร้อมแล้ว ขั้นต่อไปคือการเปิดใช้งาน Virtual Card หรือทางทรูฯ มีชื่อเรียกทางการตลาดว่า WeCard ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างบัตรเครดิตจำลองนั่นเอง วิธีเปิดการใช้งานก็ง่ายๆ ไปที่เมนูด้านล่างสุดที่เขียนว่า WeCard จากนั้นกดที่ สร้างบัตร Virtual Card และกรอกชื่อนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ

เมื่อสร้าง WeCard เสร็จแล้ว เราจะต้องเข้าไปดูรายละเอียดบัตรของเรา ซึ่งจะมีส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ

  1. หมายเลขบัตร 16 หลัก
  2. ชื่อผู้ถือบัตร (ภาษาอังกฤษ)
  3. เดือน/ปี ที่บัตรหมดอายุ
  4. รหัสหลังบัตร (CVC) 3 หลัก

ให้จดหรือจำข้อมูลทั้ง 3 นี้ไว้ เพื่อนำไปใช้ในขั้นตอนต่อไป

คำเตือน : ข้อมูลทั้ง 3 นี้ถือเป็นความลับเฉพาะคน ห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาด มิฉะนั้นอาจถูกนำไปใช้ชำระเงินโดยที่เราไม่รู้ตัวได้

4. เชื่อม We Card เข้ากับระบบสมาร์ทโฟนของเรา

มาถึงขั้นตอนสุดท้าย เป็นขั้นตอนที่เราจะต้องเชื่อมข้อมูลบัตร WeCard ของเราเข้ากับระบบชำระเงินของสมาร์ทโฟนที่เราใช้

สำหรับ iOS (iTunes Store)

  1. ไปที่ Settings > iTunes & App Store
  2. คลิกที่ Apple ID : xxxxxxxxx (ของเรา)
  3. กดที่ View Apple และใส่รหัส Apple ID ยืนยัน
  4. กดไปที่ Payment Information
  5. เลือกที่ MasterCard
  6. ตรง Card Number ให้กรอกหมายเลขหมายเลขบัตร 16 หลัก ของเรา
  7. ตรง Security Code ให้กรอกหมายเลขรหัสหลังบัตร (CVC) 3 หลัก ของเรา
  8. ตรง Month และ Year ให้เลือกเดือนและปีที่บัตรจะหมดอายุ
  9. กรอกชื่อให้ตรงกับหน้าบัตร (ภาษาอังกฤษ)
  10. กรอกที่อยู่ให้เรียบร้อย
  11. กด Done หากไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ปรากฏขึ้นมาก็เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับ Android (Play Store)

  1. ไปที่แอป Play Store
  2. ตรงเมนูด้านซ้ายเลือกที่ Account
  3. ไปที่ Payment methods
  4. กดที่ More payment settings จากนั้นจะมีหน้าเว็บ Google Payment เด้งขึ้นมาให้กดยอมรับข้อตกลง
  5. กดที่ Add payment medtods
  6. กรอกหมายเลขบัตร เดือน/ปี ที่บัตรหมดอายุ หมายเลข CVD และชื่อผู้ถือบัตรเป็นภาษาอังกฤษ (ให้ตรงกับรายละเอียดใน WeCard)

เพียงเท่านั้นทั้ง iOS และ Android ของเราก็พร้อมจ่ายเงินเพื่อซื้อแอปหรือไอเท็มภายในเกมแล้ว

5. ใช้ซื้อไอเท็มได้ตามปกติ

เราสามารถเข้าไปซื้อไอเท็มในเกมได้ตามปกติ เมื่อกดซื้อแล้วก็จะได้รับ SMS และข้อความแจ้งเตือนในแอป Wallet ว่าเราได้ชำระเงินไปเท่าไร กับผู้ให้บริการรายใด พร้อมตัดยอดเงินในกระเป๋า Wallet ของเราออกไป หากเงินไม่พอให้ตัดการชำระเงินครั้งนั้นก็จะไม่สำเร็จ

เพียงเท่านี้เราก็สามารถซื้อแอป ไอเท็มเกม หรือบริการต่างๆ ทั้ง iTunes Store และ Play Store ได้แล้วครับ ไม่จำกัดเฉพาะใน Pokemon Go


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!