ทำความรู้จัก ฟีเจอร์ “โรมมิ่งภายในประเทศ” ที่จะช่วยให้โทรศัพท์จับสัญญาณได้ดีขึ้น ครอบคลุมทั่วถึงขึ้น

พูดถึงการโรมมิ่ง หลายคนอาจจะคิดว่า เป็นฟีเจอร์ที่สำหรับให้เราสามารถนำซิมการ์ดในสมาร์ทโฟนของเราไปใช้อินเทอร์เน็ตที่เครือข่ายต่างประเทศได้ แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำให้ทุกท่านรู้จัก การโรมมิ่งเครือข่ายมือถือภายในประเทศ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้การใช้สมาร์ทโฟนของเราสามารถจับสัญญาณได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ และไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม

ทำความรู้จัก โรมมิ่ง

โรมมิ่ง (Roaming) คือ ฟีเจอร์ที่จะทำให้สมาร์ทโฟนของเรา สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายหรือคลื่นสัญญาณอื่นนอกเหนือจากเครือข่ายปัจจุบันที่เราใช้ในซิมการ์ดได้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากกรณีที่เราไปใช้งานสมาร์ทโฟนในพื้นที่ที่อับสัญญาณของบางเครือข่าย หากเครือข่ายของเรารองรับการโรมมิ่ง ตัวเครื่องก็จะข้ามไปเกาะสัญญาณของอีกเครือข่ายที่ดีที่สุดในพื้นที่และเวลานั้น ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนของเราราบรื่นและต่อเนื่องยิ่งขึ้น เรียกว่าตัวฟีเจอร์นี้ทำขึ้นมาเพื่อทำให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อของผู้ใช้งานของเครือข่ายดีขึ้นนั่นเองครับ

https://pixabay.com/photos/business-smartphone-hands-7304257/

เปิดโรมมิ่ง เสียเงินเพิ่มมั้ย ?

อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการโรมมิ่ง ก็คือเรื่องค่าบริการ จริงๆ แล้วการโรมมิ่งมี 2 แบบครับ มีทั้งแบบเสียเงินเพิ่ม และไม่เสียเงินเพิ่ม ดังนี้ครับ

  1. การโรมมิ่งต่างประเทศ (International Roaming) เป็นการใช้งานเครือข่ายอื่นในต่างประเทศ ด้วยซิมการ์ดเดิมของเรา ซึ่งหากเครือข่ายที่เราใช้งานอยู่ไม่มีโปรโมชั่นร่วมกับค่ายมือถือในต่างแดน เราจะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม
  2. การโรมมิ่งภายในประเทศ (National Roaming) เป็นการโรมมิ่งระหว่างเครือข่ายภายในประเทศเดียวกัน ซึ่งสำหรับค่ายมือถือทุกค่ายภายประเทศไทยนั้น หากแต่ละเครือข่ายมีการจับมือตกลงโรมมิ่งกันเรียบร้อย ก็จะไม่มีการคิดค่าบริการโรมมิ่งภายในประเทศกับลูกค้าเพิ่มเติมครับ หรือสรุปง่ายๆ คือ หากใช้ซิมการ์ดของเครือข่ายในประเทศไทยอยู่ แล้วเปิดการใช้งานโรมมิ่งนั้น จะไม่เสียค่าบริการใดๆ เพิ่มเติม

เสริมอีกนิดว่า การโรมมิ่งไม่ใช่การรวมคลื่นระหว่างเครือข่ายเดิมที่ใช้อยู่กับเครือข่ายอื่นแล้วทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตของเราเร็วขึ้น แต่เป็นการสลับไปใช้คลื่นของเครือข่ายอื่น (กรณีโรมมิ่งอยู่ต่างประเทศ) หรือสลับไปใช้คลื่นที่มีสัญญาณที่ดีที่สุดในพื้นที่นั้นๆ (กรณีโรมมิ่งภายในประเทศ) เพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดหาย เวลาอยู่ในพื้นที่ที่เครือข่ายหลักมีสัญญาณอ่อนกว่า

https://pixabay.com/photos/aerial-communication-connection-1880873/

ในประเทศไทยมีการโรมมิ่งไหม ?

ปัจจุบันประเทศไทย ผู้ให้บริการมือถือหลายค่าย ได้มีความร่วมมือที่จะเปิดให้ลูกค้าของตนโรมมิ่งกับค่ายอื่นได้ ยกตัวอย่าง เช่น ในอดีต AIS เคยโรมมิ่งกับ Dtac และปัจจุบันก็ยังมีการโรมมิ่งกับ NT (TOT) บนคลื่นความถี่ 2100MHz ส่วน (อ้างอิง https://brandinside.asia/ais-tot-2100mhz-deal/) my by NT ก็โรมมิ่งร่วมกับ TOT mobile และ ล่าสุด True กับ Dtac ทั้งสองค่ายนี้ก็มีการโรมมิ่งสัญญาณข้ามเครือข่ายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ทำให้ลูกค้าทั้ง 2 ค่ายนี้สามารถใช้โรมมิ่งสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณ 4G และ 5G ร่วมกันได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องสมัครแพ็คเกจหรือเสียค่าบริการเพิ่มเติมอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้า Dtac 5G สามารถใช้คลื่น 2600 MHz ของ True ได้โดยหน้าจอมือถือจะแสดงว่า dtac-True เมื่อโรมมิ่งใช้งาน หรือลูกค้าทรูก็สามารถใช้ 4G และ 5G บนคลื่น 700 MHz ของดีแทค ได้เช่นกัน โดยหน้าจอมือถือจะแสดงว่า True-dtac เมื่อโรมมิ่งใช้งาน

อยากใช้การโรมมิ่งภายในประเทศทำอย่างไร ?

หากต้องการใช้โรมมิ่งสัญญาณภายในประเทศ ทางฝั่งผู้ใช้นั้นไม่ต้องทำการสมัครหรือตั้งค่าใดๆ บนตัวเครื่องเลยครับ ซึ่งปัจจุบันมือถือเกือบทุกรุ่นรองรับการโรมมิ่งคลื่นอยู่แล้ว เพียงเลือกใช้เครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งที่มีการเปิดโรมมิ่งระหว่างกัน

ดังนั้น หากเครือข่ายที่เราใช้งานอยู่ มีการเปิดให้โรมมิ่งกันภายในประเทศกับเครือข่ายอื่นได้ จะสามารถใช้งานโรมมิ่งได้ทันที โดยระบบจะเลือกจับสัญญาณบนเครือข่ายที่มีความแรงมากกว่าในพื้นที่นั้นๆ อัตโนมัติ หากมีข้อสงสัยในการใช้งานโรมมิ่ง แนะนำติดต่อศูนย์บริการของแต่ละค่ายมือถือ เพื่อสอบถามการตั้งค่าการใช้งาน


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!